วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ขโมยของ

ขโมยของ


   การลักขโมยของวัยรุ่นมักมีสาเหตุสำคัญ ๆ อย่างน้อย 3 อย่างคือ 

1. เพราะขาดการอบรมบ่มนิสัยหรือจริยธรรม 
2. เพราะขาดแคลนในสิ่งที่ต้องการปรารถนา 
3. เพราะต้องการแก้แค้นพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู-อาจารย์ หรือองค์กร ที่ตนสังกัด


   วิธีแก้ไขช่วยเหลือ ก็แก้ไขไปตามเหตุ ทั้งนี้จะต้องไม่ด่วนตำหนิลงโทษใด ๆ จนกว่าจะได้พิจารณา ทบทวนดีแล้ว
การแก้ไขช่วยเหลือตามเหตุ มีวิธีโดยสรุปดังนี้
1. ชี้ให้เห็นหรือบอกถึงผลของการลักขโมยว่าเป็นโทษร้ายแรง ผิดทั้งทาง ศีลธรรม จริยธรรม ในครอบครัว สังคมไทย และสังคมโลก
2. เมื่อต้องการสิ่งใดต้องบอกพ่อแม่ให้ทราบ จะจัดหาให้ตามสมควร ถ้ายังไม่ได้ในทันทีต้องรู้จักรอ รู้จักอดทน หากได้ทำผิดไปแล้วจะต้อง ไม่ตำหนิรุนแรงเพราะเป็นเพียงความอยากได้เพราะขาดแคลนมิใช่สันดานโจร-ชั่วช้า
3. วัยรุ่นต้องการขโมยให้ถูกจับได้ พ่อแม่ผู้ใหญ่จะได้เสียชื่อจงพยายามหาเหตุของความขัดแย้ง ความต้องการแก้แค้นนั้น และหาทางคลี่คลาย
4. พวกขโมยทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้ง ๆ ที่ไม่ขาดแคลนหรือมีความแค้น มักมีความผิดปกติทางจิตรุนแรง ที่เรียกว่า เครพโตมาเนีย ต้องปรึกษาจิตแพทย์ นักจิตวิทยา หรือ ผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญผู้ใหญ่ต้องไม่ขโมยเสียเอง หรือชื่นชม การขโมยอันเป็นตัวอย่างไม่ดีกับวัยรุ่น ไม่ว่าจะขโมยสิ่งของหรือเวลาทำงาน  ปัญหาวัยรุ่นขโมยของ ทำด้วย เจตนาอะไร เช่น บางคนถือวิสาสะความเป็นลูก หยิบเงินจากกระเป๋า ของคุณไปโดยไม่ขออนุญาต ในกรณีนี้คุณควรบอกให้ลูกรู้ว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ บางคนไปชอบขโมยของผู้อื่นแม้จะเป็นคนในบ้านเดียวกันก็ตาม แต่คุณก็ต้องเคารพ ในสิทธิของเขาด้วยเช่นกัน หรือบางคนชอบหยิบของ ของคนอื่น โดยพลการ เพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือมีอะไรบางอย่าง คับแค้นอยู่ในใจ เลยใช้วิธี ขโมย เพื่อให้พ่อแม่เสียชื่อและรู้สึกเจ็บปวด ซึ่งเป็นวิธี การแก้แค้น แบบหนึ่ง ในกรณีนี้ คุณควรให้เวลา ให้ความใส่ใจ และให้ความ อบอุ่นแก่เขามากขึ้น แต่ถ้าเขาขโมย ของทุกอย่าง ที่ขวางหน้าทั้งๆที่คุณก็ได้ตามใจ และให้เงินใช้ ไม่ขาดมือ ในกรณีนี้ คงต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวช ข้อสำคัญ อย่าลืมชี้ให้เขามองเห็น ผลเสียของการลักขโมยว่าเป็นการ กระทำ ที่ผิด ทั้งทาง ศีลธรรม ทางกฎหมาย และทางสังคม ไม่มีใครอยาก คบหาหรือยอมรับ คนที่ชอบลักขโมย แถมยังเป็นโทษร้ายแรงทางกฎหมายด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น