ติดเกมส์
ในปัจจุบันปัญหาเรื่องเด็กติดเกมส์กำลังเป็นปัญหาสำคัญของสังคม
ที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังปวดหัวและหาทางแก้ไขกันอยู่ เพราะเมื่อเด็กติดเกมส์แล้วก็ทำให้เสียทั้งสุขภาพ เสียนิสัย เสียเวลา เสียการเรียน โง่เขลา และสุดท้ายก็เสียอนาคต ซึ่งถ้าสังคมเรามีเด็กติดเกมส์มากๆ สังคมเราก็คงจะล่มจมลงในไม่ช้าเป็นแน่ ซึ่งในการแก้ปัญหาเรื่องเด็กติดเกมส์นี้ ทางพุทธศาสนาจะมีหลักในการแก้ปัญหาไว้เป็นขั้นตอนดังนี้ คือ
1. ต้องรู้ว่าเกมส์นั้นคืออะไร?
2. ต้องรู้จักว่าเกมส์นั้นมันมีอำนาจอะไรที่ดึงดูดให้เด็กติด?
3. ต้องรู้ว่าโทษจากการเล่นเกมส์นั้นมีอย่างไรบ้าง?
4. ต้องรู้วิธีการที่จะหลุดพ้นจากการติดเกมส์ว่าทำอย่างไร?
ที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังปวดหัวและหาทางแก้ไขกันอยู่ เพราะเมื่อเด็กติดเกมส์แล้วก็ทำให้เสียทั้งสุขภาพ เสียนิสัย เสียเวลา เสียการเรียน โง่เขลา และสุดท้ายก็เสียอนาคต ซึ่งถ้าสังคมเรามีเด็กติดเกมส์มากๆ สังคมเราก็คงจะล่มจมลงในไม่ช้าเป็นแน่ ซึ่งในการแก้ปัญหาเรื่องเด็กติดเกมส์นี้ ทางพุทธศาสนาจะมีหลักในการแก้ปัญหาไว้เป็นขั้นตอนดังนี้ คือ
1. ต้องรู้ว่าเกมส์นั้นคืออะไร?
2. ต้องรู้จักว่าเกมส์นั้นมันมีอำนาจอะไรที่ดึงดูดให้เด็กติด?
3. ต้องรู้ว่าโทษจากการเล่นเกมส์นั้นมีอย่างไรบ้าง?
4. ต้องรู้วิธีการที่จะหลุดพ้นจากการติดเกมส์ว่าทำอย่างไร?
ผลเสียจากการเล่นเกมส์นั้น
ถ้าเรามองอย่างผิวเผินก็เหมือนกับว่าการเล่นเกมส์นั้นเป็นเพียงแค่การเล่นที่สนุกสนาน แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้งแล้วจะพบว่าการเล่นเกมส์นี้มีโทษหรือผลเสียมากมายทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ทั้งแก่ตัวเด็กเองและแก่สังคมโดยรวม ซึ่งก็จะสรุปได้ดังนี้
1. เสียสุขภาพ คือการนั่งเพ่งจอภาพนานๆก็จะเกิดผลเสียกับร่ายกายหรือดวงตา เช่นปวดเมื่อย สุขภาพอ่อนแอ ปวดหัว หรือทำให้ดวงตาเสื่อมสภาพเร็ว คือทำให้ตาฝ้าฟางและอาจจะทำให้ระบบสายตาเสียหายจนสายตาพิการได้ อีกทั้งรังสีจากจอภาพนั้นก็มีโทษแก่ร่างกายด้วย เป็นต้น ซึ่งข้อนี้ยังเป็นเพียงโทษเล็กน้อยเท่านั้น
2. เสียนิสัย การเล่นเกมส์นั้นจะสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้กับเด็กโดยไม่รู้ตัวอย่างเช่น เด็กที่ติดเกมส์มักจะมีนิสัยเกียจคร้าน ขาดความรับผิดชอบ เด็กบางคนเมื่อติดเกมส์มากๆเมื่อพ่อแม่ไม่ให้เงินไปเล่นเกมส์ก็จะลักขโมยเงินพ่อแม่ที่แม้จะยากจนและจำเป็นจะต้องใช้เงินนั้น เด็กก็จะไม่สนใจว่าพ่อแม่จะเดือดร้อนอย่างไร เพื่อเอาเงินไปเล่นเกมส์ ซึ่งก็สร้างปัญหาให้กับครอบครัวอย่างมาก หรือเด็กบางคนเมื่อพ่อแม่ห้ามไม่ให้เล่นเกมส์หรือกักขังหรือทำโทษ เด็กก็จะโกรธ หรือไม่พอใจพ่อแม่อย่างรุนแรง ซึ่งก็อาจถึงขั้นทำร้ายพ่อแม่ได้ หรือบางคนอาจจะเสียใจถึงขั้นประชดชีวิตด้วยการทำร้ายตัวเองก็ได้ หรือเกมส์ประเภทที่ทำร้ายกัน หรือฆ่ากันอย่างเหี้ยมโหดก็จะทำให้ผู้ที่เล่นนั้นสั่งสมนิสัยใจร้ายหรือเหี้ยมโหดเอาไว้ในจิตใต้สำนึกโดยไม่รู้ตัว ซึ่งก็จะทำให้ผู้เล่นนั้นมีนิสัยขาดเมตตา หงุดหงิดง่าย ใจร้าย และโมโหง่าย แล้วผลที่ตามมาก็คือเมื่อถูกกระตุ้นให้เกิดโทสะเขาก็จะขาดสติและเกิดโทสะขึ้นอย่างรุนแรง แล้วก็สามารถทำร้ายผู้อื่น หรือฆ่าคนอื่นได้อย่างง่ายดายเพราะรู้สึกเหมือนกับได้เล่นเกมส์ ซึ่งเรื่องอย่างนี้ก็มีให้เห็นทางสื่อต่างๆอยู่บ่อยๆ ทั้งในและต่างประเทศเกมส์จึงเปรียบเหมือนปีศาจร้ายที่มาครอบงำจิตใจเด็กให้ติดให้ลุ่มหลงแล้ว ทำให้เด็กโง่เขลา ไร้ความคิด ไร้สติปัญญา เห็นแก่ตัว ก้าวร้าว ใจร้าย เอาแต่ใจตัวเอง ดื้อรั้น เกียจคร้าน ไม่อดทน ขาดความรับผิดชอบ ฟุ่มเฟือย คือจากเด็กที่มีนิสัยดีก็เปลี่ยนมาเป็นเด็กที่มีนิสัยเลวได้เพราะติดเกมส์
3. เสียทรัพย์ คือการเล่นเกมส์นี้ก็ต้องใช้ทรัพย์แลกเปลี่ยน ซึ่งคนทีร่ำรวยก็อาจซื้อหามาเล่นได้โดยไม่ทำให้เดือดร้อน ส่วนคนที่มีทรัพย์น้อยก็ต้องไปอาศัยเช่าเครื่องเล่นตามร้านที่คนเห็นแก่ตัวเขาเปิดให้บริการ ซึ่งถ้าค่าบริการแพงเด็กก็ไปเล่นน้อยหรือเล่นไม่นาน แต่ถ้าค่าเช่าถูก เด็กก็จะยิ่งเล่นมากหรือเล่นนาน เด็กบางคนอาจเล่นเกมส์ติดต่อกันได้เป็นวันๆโดยไม่ได้พักผ่อนก็มี
ซึ่งเงินที่พ่อแม่หามาได้เพื่อให้ลูกเอาไปกินขนมลูกก็เอาไปเล่นเกมส์จนหมด หรือเงินที่พ่อแม่หามาด้วยความยากลำบากเพื่อให้ลูกเอาไปใช้จ่ายในการเรียน ลูกก็กลับเอาไปเล่นเกมส์จนหมดโดยไม่รู้ตัวเหมือนคนไม่มีความคิด หรือเหมือนคนปัญญาอ่อนที่คิดอะไรไม่เป็น หรือคิดเป็นอย่างเดียวคือจะเล่นแต่เกมส์อย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงอนาคตว่าต่อไปมันจะเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสอย่างไรก็ไม่สนใจ คือเหมือนกับว่าจิตใจของเด็กที่ติดเกมส์นั้นจะมืดบอด ไม่มีแสงสว่างของสติปัญญาอยู่เลยสักนิด เด็กจะคิดได้แต่เพียงว่า “ช่างมันขอให้ได้สนุกจากการเล่นเกมส์นี้อย่างเดียวก็พอใจแล้ว ถึงแม้จะต้องแลกด้วยการตกเป็นทาสตลอดชีวิต หรือถูกเอาไปฆ่า เอาไปทรมาน เอาไปข่มเหงรังแกอย่างไรก็ยอมซึ่งนี่คือจุดที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเพราะมันทำให้เด็กสามารถทำได้ทุกอย่างแม้การกระทำนั้นจะผิดหรือจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตอย่างไรก็ยอม เพียงเพื่อแลกกับการได้เล่นเกมส์ที่ตนเองชอบเท่านั้น
4. เสียเวลา คือเด็กที่ติดเกมส์นั้นส่วนมากจะเอาแต่นั่งเล่นเกมส์เพียงอย่างเดียว ไม่ยอมทำอะไร
ยิ่งถ้าพ่อแม่บังคับลูกไม่ได้ ลูกก็จะได้ใจและจะไม่ยอมทำอะไรเลยนอกจากเล่นเกมส์ทั้งวันทั้งคืนจนกระทั่งร่างกายทนไม่ไหวจึงจะไปพักผ่อน พอตื่นมาก็จะมาเล่นเกมส์ต่อทันที ซึ่งนี่ก็คือการทำให้เสียเวลาที่จะเอาไปทำสิ่งที่จะเกิดประโยชน์แก่ชีวิตให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เด็กบางคนก็เรียนไม่จบก็ทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆไปเป็นปีๆโดยไม่ได้อะไรเลยเพราะมัวแต่ไปเล่นเกมส์ หรือคนที่กลับตัวได้แต่ก็ต้องเสียเวลามาตั้งต้นเล่าเรียนใหม่ ซึ่งก็ต้องใช้ความอดทนและความพากเพียรหนักขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็อาจจะตามเพื่อนๆไม่ทัน หรืออาจจะท้อถอยจนละเลิกการเรียนไปอีกก็ได้
5. เสียปัญญา คือการที่เด็กเอาเวลาไปเล่นเกมส์นั้นก็จะทำให้เด็กเสียเวลาในการเรียน การทำการบ้าน และการอ่านหนังสือหรือเสียเวลาในการศึกษาสิ่งที่จะทำให้เกิดความรอบรู้ในด้านต่างๆแก่ตนเอง ซึ่งก็ย่อมที่จะทำให้เด็กนั้นโง่เขลา หรือไม่มีความรู้เท่าเพื่อนที่ไม่ติดเกมส์ ซึ่งเมื่อโง่เสียอย่างเดียวชีวิตก็หาความสุขความเจริญที่มั่นคงยั่งยืนไม่ได้
6. เสียอนาคต คือถ้าเสียสุขภาพ ก็จะทำให้เสียโอกาสที่จะมีความก้าวหน้าในการเรียนหรือในหน้าที่การงานได้ ส่วนเด็กที่ความรู้ต่ำหรือโง่เขลาเพราะไม่ได้เรียนก็ย่อมที่จะได้ทำแต่งานที่ต่ำลงตามไปด้วย จึงทำให้ชีวิตตกต่ำหรือไม่เจริญก้าวหน้าอย่างคนที่เขามีการศึกษาทั้งหลาย คือทำให้ต้องทนทำงานที่ต่ำต้อยหรือหนักแต่ว่าได้เงินน้อยไปจนตลอดชีวิต ซึ่งนี่ก็เท่ากับว่าเด็กนั้นได้ “ขายอนาคตให้กับปีศาจเกมส์”ไปเสียแล้ว
ถ้าเรามองอย่างผิวเผินก็เหมือนกับว่าการเล่นเกมส์นั้นเป็นเพียงแค่การเล่นที่สนุกสนาน แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้งแล้วจะพบว่าการเล่นเกมส์นี้มีโทษหรือผลเสียมากมายทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ทั้งแก่ตัวเด็กเองและแก่สังคมโดยรวม ซึ่งก็จะสรุปได้ดังนี้
1. เสียสุขภาพ คือการนั่งเพ่งจอภาพนานๆก็จะเกิดผลเสียกับร่ายกายหรือดวงตา เช่นปวดเมื่อย สุขภาพอ่อนแอ ปวดหัว หรือทำให้ดวงตาเสื่อมสภาพเร็ว คือทำให้ตาฝ้าฟางและอาจจะทำให้ระบบสายตาเสียหายจนสายตาพิการได้ อีกทั้งรังสีจากจอภาพนั้นก็มีโทษแก่ร่างกายด้วย เป็นต้น ซึ่งข้อนี้ยังเป็นเพียงโทษเล็กน้อยเท่านั้น
2. เสียนิสัย การเล่นเกมส์นั้นจะสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้กับเด็กโดยไม่รู้ตัวอย่างเช่น เด็กที่ติดเกมส์มักจะมีนิสัยเกียจคร้าน ขาดความรับผิดชอบ เด็กบางคนเมื่อติดเกมส์มากๆเมื่อพ่อแม่ไม่ให้เงินไปเล่นเกมส์ก็จะลักขโมยเงินพ่อแม่ที่แม้จะยากจนและจำเป็นจะต้องใช้เงินนั้น เด็กก็จะไม่สนใจว่าพ่อแม่จะเดือดร้อนอย่างไร เพื่อเอาเงินไปเล่นเกมส์ ซึ่งก็สร้างปัญหาให้กับครอบครัวอย่างมาก หรือเด็กบางคนเมื่อพ่อแม่ห้ามไม่ให้เล่นเกมส์หรือกักขังหรือทำโทษ เด็กก็จะโกรธ หรือไม่พอใจพ่อแม่อย่างรุนแรง ซึ่งก็อาจถึงขั้นทำร้ายพ่อแม่ได้ หรือบางคนอาจจะเสียใจถึงขั้นประชดชีวิตด้วยการทำร้ายตัวเองก็ได้ หรือเกมส์ประเภทที่ทำร้ายกัน หรือฆ่ากันอย่างเหี้ยมโหดก็จะทำให้ผู้ที่เล่นนั้นสั่งสมนิสัยใจร้ายหรือเหี้ยมโหดเอาไว้ในจิตใต้สำนึกโดยไม่รู้ตัว ซึ่งก็จะทำให้ผู้เล่นนั้นมีนิสัยขาดเมตตา หงุดหงิดง่าย ใจร้าย และโมโหง่าย แล้วผลที่ตามมาก็คือเมื่อถูกกระตุ้นให้เกิดโทสะเขาก็จะขาดสติและเกิดโทสะขึ้นอย่างรุนแรง แล้วก็สามารถทำร้ายผู้อื่น หรือฆ่าคนอื่นได้อย่างง่ายดายเพราะรู้สึกเหมือนกับได้เล่นเกมส์ ซึ่งเรื่องอย่างนี้ก็มีให้เห็นทางสื่อต่างๆอยู่บ่อยๆ ทั้งในและต่างประเทศเกมส์จึงเปรียบเหมือนปีศาจร้ายที่มาครอบงำจิตใจเด็กให้ติดให้ลุ่มหลงแล้ว ทำให้เด็กโง่เขลา ไร้ความคิด ไร้สติปัญญา เห็นแก่ตัว ก้าวร้าว ใจร้าย เอาแต่ใจตัวเอง ดื้อรั้น เกียจคร้าน ไม่อดทน ขาดความรับผิดชอบ ฟุ่มเฟือย คือจากเด็กที่มีนิสัยดีก็เปลี่ยนมาเป็นเด็กที่มีนิสัยเลวได้เพราะติดเกมส์
3. เสียทรัพย์ คือการเล่นเกมส์นี้ก็ต้องใช้ทรัพย์แลกเปลี่ยน ซึ่งคนทีร่ำรวยก็อาจซื้อหามาเล่นได้โดยไม่ทำให้เดือดร้อน ส่วนคนที่มีทรัพย์น้อยก็ต้องไปอาศัยเช่าเครื่องเล่นตามร้านที่คนเห็นแก่ตัวเขาเปิดให้บริการ ซึ่งถ้าค่าบริการแพงเด็กก็ไปเล่นน้อยหรือเล่นไม่นาน แต่ถ้าค่าเช่าถูก เด็กก็จะยิ่งเล่นมากหรือเล่นนาน เด็กบางคนอาจเล่นเกมส์ติดต่อกันได้เป็นวันๆโดยไม่ได้พักผ่อนก็มี
ซึ่งเงินที่พ่อแม่หามาได้เพื่อให้ลูกเอาไปกินขนมลูกก็เอาไปเล่นเกมส์จนหมด หรือเงินที่พ่อแม่หามาด้วยความยากลำบากเพื่อให้ลูกเอาไปใช้จ่ายในการเรียน ลูกก็กลับเอาไปเล่นเกมส์จนหมดโดยไม่รู้ตัวเหมือนคนไม่มีความคิด หรือเหมือนคนปัญญาอ่อนที่คิดอะไรไม่เป็น หรือคิดเป็นอย่างเดียวคือจะเล่นแต่เกมส์อย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงอนาคตว่าต่อไปมันจะเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสอย่างไรก็ไม่สนใจ คือเหมือนกับว่าจิตใจของเด็กที่ติดเกมส์นั้นจะมืดบอด ไม่มีแสงสว่างของสติปัญญาอยู่เลยสักนิด เด็กจะคิดได้แต่เพียงว่า “ช่างมันขอให้ได้สนุกจากการเล่นเกมส์นี้อย่างเดียวก็พอใจแล้ว ถึงแม้จะต้องแลกด้วยการตกเป็นทาสตลอดชีวิต หรือถูกเอาไปฆ่า เอาไปทรมาน เอาไปข่มเหงรังแกอย่างไรก็ยอมซึ่งนี่คือจุดที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเพราะมันทำให้เด็กสามารถทำได้ทุกอย่างแม้การกระทำนั้นจะผิดหรือจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตอย่างไรก็ยอม เพียงเพื่อแลกกับการได้เล่นเกมส์ที่ตนเองชอบเท่านั้น
4. เสียเวลา คือเด็กที่ติดเกมส์นั้นส่วนมากจะเอาแต่นั่งเล่นเกมส์เพียงอย่างเดียว ไม่ยอมทำอะไร
ยิ่งถ้าพ่อแม่บังคับลูกไม่ได้ ลูกก็จะได้ใจและจะไม่ยอมทำอะไรเลยนอกจากเล่นเกมส์ทั้งวันทั้งคืนจนกระทั่งร่างกายทนไม่ไหวจึงจะไปพักผ่อน พอตื่นมาก็จะมาเล่นเกมส์ต่อทันที ซึ่งนี่ก็คือการทำให้เสียเวลาที่จะเอาไปทำสิ่งที่จะเกิดประโยชน์แก่ชีวิตให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เด็กบางคนก็เรียนไม่จบก็ทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆไปเป็นปีๆโดยไม่ได้อะไรเลยเพราะมัวแต่ไปเล่นเกมส์ หรือคนที่กลับตัวได้แต่ก็ต้องเสียเวลามาตั้งต้นเล่าเรียนใหม่ ซึ่งก็ต้องใช้ความอดทนและความพากเพียรหนักขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็อาจจะตามเพื่อนๆไม่ทัน หรืออาจจะท้อถอยจนละเลิกการเรียนไปอีกก็ได้
5. เสียปัญญา คือการที่เด็กเอาเวลาไปเล่นเกมส์นั้นก็จะทำให้เด็กเสียเวลาในการเรียน การทำการบ้าน และการอ่านหนังสือหรือเสียเวลาในการศึกษาสิ่งที่จะทำให้เกิดความรอบรู้ในด้านต่างๆแก่ตนเอง ซึ่งก็ย่อมที่จะทำให้เด็กนั้นโง่เขลา หรือไม่มีความรู้เท่าเพื่อนที่ไม่ติดเกมส์ ซึ่งเมื่อโง่เสียอย่างเดียวชีวิตก็หาความสุขความเจริญที่มั่นคงยั่งยืนไม่ได้
6. เสียอนาคต คือถ้าเสียสุขภาพ ก็จะทำให้เสียโอกาสที่จะมีความก้าวหน้าในการเรียนหรือในหน้าที่การงานได้ ส่วนเด็กที่ความรู้ต่ำหรือโง่เขลาเพราะไม่ได้เรียนก็ย่อมที่จะได้ทำแต่งานที่ต่ำลงตามไปด้วย จึงทำให้ชีวิตตกต่ำหรือไม่เจริญก้าวหน้าอย่างคนที่เขามีการศึกษาทั้งหลาย คือทำให้ต้องทนทำงานที่ต่ำต้อยหรือหนักแต่ว่าได้เงินน้อยไปจนตลอดชีวิต ซึ่งนี่ก็เท่ากับว่าเด็กนั้นได้ “ขายอนาคตให้กับปีศาจเกมส์”ไปเสียแล้ว
วิธีการที่จะหลุดพ้นจากการติดเกมส์
จะสรุปอยู่ที่การพิจารณาให้เห็นถึงโทษจากการติดเกมส์อย่างจริงจังจนเกิดความกลัวต่อโทษนั้นแล้วก็หันมาฝึกสมาธิเพื่อให้จิตมาติดอยู่ในความสุขจากสมาธิแทนในขั้นนี้ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่า “มนุษย์ทุกคนที่เกิดมานั้นต้องการความสุข” ซึ่งเมื่อใครได้รับการปลูกฝังให้ติดใจลุ่มหลงในความสุขจากสิ่งใดแล้ว เขาก็จะติดใจลุ่มหลงความสุขจากสิ่งนั้นเรื่อยไปและละเลิกได้ยาก
นอกเสียจากว่าเขาจะได้รับความสุขใหม่ๆที่ดีกว่าเก่ามาให้ติดใจลุ่มหลงแทน เขาก็จะเปลี่ยนไปติดใจลุ่มหลงในความสุขใหม่นั้นแทน การเล่นเกมส์นั้นมันก็ทำให้เกิดความสุขอย่างมากแก่จิตใจอย่างหนึ่ง แต่ความสุขจากการเล่นเกมส์นี้เราก็รู้ว่ามันมีโทษมาก ดังนั้นเราก็ต้องละเลิกและหาความสุขใหม่ที่ไม่มีโทษมาให้จิตใจติดแทนซึ่งความสุขที่ไม่มีโทษนี้ก็หาได้จากการเรียน และการทำงานที่เด็กที่ไม่ติดเกมส์ทั้งหลายเขามีกันอยู่ แต่เด็กที่ติดเกมส์นี้ย่อมที่จะไม่ชอบเรียน ไม่ชอบทำงานเพราะเขาจะรู้สึกเป็นทุกข์แทนที่จะรู้สึกเป็นสุข ดังนั้นจึงอาจจะต้องใช้การบังคับและใช้เวลามากกว่าจะเปลี่ยนให้เด็กที่ติดเกมส์เปลี่ยนมาติดในการเรียนหรือการทำงานได้ ซึ่งก็อาจจะทำไม่ได้เลยก็ได้ถ้าพ่อแม่หรือผู้ปกครองขาดสติปัญญาและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กไม่ได้
จะสรุปอยู่ที่การพิจารณาให้เห็นถึงโทษจากการติดเกมส์อย่างจริงจังจนเกิดความกลัวต่อโทษนั้นแล้วก็หันมาฝึกสมาธิเพื่อให้จิตมาติดอยู่ในความสุขจากสมาธิแทนในขั้นนี้ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่า “มนุษย์ทุกคนที่เกิดมานั้นต้องการความสุข” ซึ่งเมื่อใครได้รับการปลูกฝังให้ติดใจลุ่มหลงในความสุขจากสิ่งใดแล้ว เขาก็จะติดใจลุ่มหลงความสุขจากสิ่งนั้นเรื่อยไปและละเลิกได้ยาก
นอกเสียจากว่าเขาจะได้รับความสุขใหม่ๆที่ดีกว่าเก่ามาให้ติดใจลุ่มหลงแทน เขาก็จะเปลี่ยนไปติดใจลุ่มหลงในความสุขใหม่นั้นแทน การเล่นเกมส์นั้นมันก็ทำให้เกิดความสุขอย่างมากแก่จิตใจอย่างหนึ่ง แต่ความสุขจากการเล่นเกมส์นี้เราก็รู้ว่ามันมีโทษมาก ดังนั้นเราก็ต้องละเลิกและหาความสุขใหม่ที่ไม่มีโทษมาให้จิตใจติดแทนซึ่งความสุขที่ไม่มีโทษนี้ก็หาได้จากการเรียน และการทำงานที่เด็กที่ไม่ติดเกมส์ทั้งหลายเขามีกันอยู่ แต่เด็กที่ติดเกมส์นี้ย่อมที่จะไม่ชอบเรียน ไม่ชอบทำงานเพราะเขาจะรู้สึกเป็นทุกข์แทนที่จะรู้สึกเป็นสุข ดังนั้นจึงอาจจะต้องใช้การบังคับและใช้เวลามากกว่าจะเปลี่ยนให้เด็กที่ติดเกมส์เปลี่ยนมาติดในการเรียนหรือการทำงานได้ ซึ่งก็อาจจะทำไม่ได้เลยก็ได้ถ้าพ่อแม่หรือผู้ปกครองขาดสติปัญญาและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น